จาก "ถุงกล้วยแขก" ถึง "ม.กรุงเทพ"

สวัสดีครับเพื่อนๆ เป็นอีกครั้งแล้วที่ผมตัดสินใจทำบล็อกใหม่ ซึ่งเนื้อหาแนวๆ ด้านการให้ความรู้มีตั้งใจจะทำขึ้นมามีอีก 2 บล็อก แต่สำหรับบล็อกนี้นั้น วัตถุประสงค์หลักๆ คือผมอยากจะขอขอบพระคุณทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณาจารย์ที่ให้ความกรุณา อนุเคราะห์ทุนการศึกษาในระดับปริญญาโทให้กับผม จึงทำให้ผมตั้งใจทำขึ้นมาเป็นพิเศษ และจะนำความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้เป็นเรื่องเป็นราว มาแบ่งปันเพื่อนๆ ครับ โดยมีเนื้อหาระหว่างการเรียนปริญญาโทเป็นหลักมาแบ่งปันด้วยครับ

ผมอยากเกริ่นเรื่องราวให้เพื่อนๆ ได้ทราบถึงที่มา เริ่มจากผมได้รับลิงก์ประชาสัมพันธ์ข่าวจาก facebook ของเพื่อนคนพิการด้วยกัน และเชื่อมลิงก์ต่อไปยังเว็บของมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ที่มีเนื้อหาในการรับสมัครคนพิการให้ยื่นเอกสารเพื่อลองขอรับทุนการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการจัดการออกแบบภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต เมื่อผมได้ทราบข้อมูล ผมรีบติดต่อ ดร.ฤทธิรงค์ จุฑาพฤฒิกร ทันที และผมก็ได้รีบส่ง resume (ประวัติและข้อมูล) ให้กับ อาจารย์ฤทธิรงค์ ภายในคืนเดียวกัน ด้วยเพราะว่าผมมีการทำ resume ไว้อยู่แล้ว เนื่องจากเวลาผมต้องไปเป็นวิทยากร ก็ต้องส่ง profile ไปประกอบอยู่แล้วแทบทุกครั้ง

เท่าที่ผมทราบ คือ อาจารย์ฤทธิรงค์ ท่านได้รีบดำเนินการส่งเรื่องทันที ไม่นานผมได้รับการติดต่อให้มาสัมภาษณ์ ผมตื่นเต้น หัวใจตึกตัก เพื่อนๆ อาจจะรู้สึกว่าตื่นเต้นเรื่องอะไร ผมอยากบอกว่า เหมือนเวลาย้อนกลับ ผมเคยได้รับการสัมภาษณ์ขอทุนการศึกษา 2 ครั้ง คือ ตอนที่อยู่ชั้นมัธยม ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ และตอนเรียนปริญญาตรีที่บางมด (พระจอมเกล้าธนบุรี) ตื่นเต้นที่ตัวเองกำลังจะกลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้ง เพื่อนๆ รู้ไหมครับว่า บ่อยครั้งมากที่ผมฝันว่า ผมกลับไปเป็นนักเรียนระดับมัธยม และปริญญาตรีบ่อยๆ ไม่คิดว่าความฝันจะเป็นจริง ได้เรียนใหม่อีกครั้ง

ตอนที่เข้าห้องสัมภาษณ์ อาจารย์แต่ละท่านก็มีคำถามพอสมควรครับ ผมถูกสัมภาษณ์ทั้งหมด 30 นาที จำได้แต่ว่ามีคำถามอย่างต่อเนื่อง และผมยังได้มีโอกาสเขียนโครงการมาเสนอกับทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยครับ เป็นความรู้สึกว่า อยากทำอะไรให้กับทางมหาวิทยาลัยบ้าง ในใจคิดตลอดเวลาว่า ผมจะต้องตั้งใจเรียนและทำประโยชน์ ทำการประชาสัมพันธ์ให้กับทางมหาวิทยาลัยเท่าที่จะสามารถทำได้ครับ

แล้วผมก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการออกแบบภายใน โดยในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2555 ผมก็ได้เดินทางไปทำบัตรประจำตัวนักศึกษา ที่วิทยาเขตกล้วยน้ำไท โดยท่านอาจารย์ไพโรจน์ ดูแลผมเป็นอย่างดีตั้งแต่วันที่มามอบตัวเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้ผมเป็นนักศึกษาทุนฯ อย่างสมบูรณ์ และจะเริ่มทำการเรียนในเดือนสิงหาคม - ธันวาคม ต่อไป


ถ่ายภาพคู่กับท่านอาจารย์ไพโรจน์ ที่หน้าอาคาร ADMISSION ครับ


บัตรประจำตัวนักศึกษาปริญญาโท ครับ

เดี๋ยวเพื่อนๆ จะงงว่าแล้วบทความนี้ "ถุงกล้วยแขก" ไปเกี่ยวข้องอย่างไรกับ "มหาวิทยาลัยกรุงเทพ" จึงต้องขอเชื่อมโยงดังนี้นะครับ ผมดีใจมากที่ได้เรียนอีกครั้ง เพราะคณะสถาปัตยกรรมนั้นผมอยากเรียนตั้งแต่สมัยจบมัธยมปลายแล้วครับ ดังนั้นการได้มาเรียนตอนอายุ 40 ก็ยังทำให้รู้สึกได้ว่า ถึงจะอายุมากก็ยังไม่ช้าเกินไปที่มีโอกาสได้เรียนคณะสถาปัตยกรรม ครับ ผมชอบอ่านหนังสือ ผมชอบเรียนรู้ ทุกวันนี้ก็ยังคงสนใจเรื่องนี้ นั้น โน้น เข้าร้านหนังสือก็ลืมเวลา เพลินกับหนังสือใหม่ๆ จำไม่ได้ชัดเจนว่า ทำไมถึงมีนิสัยแบบนี้ มี 2 เหตุผลที่พอจะนึกได้ลางๆ คือ การได้มีโอกาสอ่านหนังสือดีๆ ที่บ้านครูแนน และคำพูดของคุณครู ที่บอกผมว่า การอ่านสำคัญ แม้เป็นตัวหนังสือบนถุงกล้วยแขกก็เป็นครูเราได้ สามารถอ่านได้ ให้ความรู้เราได้

ยิ่งตัวผมต้องมากลายเป็นคนพิการทุพพลภาพ ผมคิดว่ายิ่งต้องเรียนรู้มากๆ ให้ตัวเองมีต้นทุน เมื่อต้องคิดทำ ลงมือทำ สิ่งใดแล้ว จักได้มีต้นทุนไว้เป็นสำคัญ บ่อยครั้งที่ผมมีโอกาสพูดคุย สอบถามกับคนพิการที่ทั้งโทรมาสมัครงาน ต้องการงานทำ หรือโทรมาปรึกษาปัญหาชีวิต ผมจะแนะนำเรื่องสำคัญ 2 เรื่องกับพวกเขาเสมอว่า ต้องดูแลสุขภาพ และต้องหมั่นเรียนรู้ ถึงเรียนไม่สูง แต่ถ้าหมั่นศึกษาหาความรู้ ก็จะสามารถมีทางเลือกในชีวิตได้

ถึงตรงนี้แล้ว พอจะเห็นความตั้งใจผมที่จะนำเสนอเพื่อนๆ แล้วนะครับว่า "ถุงกล้วยแขก" อาจเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของการใฝ่รู้ของผมมาตลอด จนทำให้รีบติดต่ออาจารย์ฤทธิรงค์ จนได้มีโอกาสรับทุนจากทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะว่า จาก 100 ต้องเริ่มที่ 0 แน่นอนฉันใด ทุกเรื่องราว ย่อมมีที่มาเสมอ สำคัญอีกหนึ่งคือ ก่อนเขียนบทความนี้ผมนึกถึงเรื่องราวของถุงกล้วยแขกที่คุณครูได้สั่งสอนไว้ จึงอยากนำมาแบ่งปันเพื่อนๆ ครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะครับ

อ๋อ... ก่อนจบ "ถุงกล้วยแขก" มีคำว่า "กล้วย" ซึ่งบังเอิญไปตรงกับ "กล้วยน้ำไท" พอดีนะครับ กล้วยเหมือนกันครับ แล้วผมก็ชอบกินกล้วยทุกชนิดเสียด้วยครับ

4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับพี่ ปรีดา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยินดีครับ เข้ามาอ่านทุกบทความได้เสมอนะครับ

      ลบ
  2. คุณปรีดาครับ
    สาขาที่คุณปรีดาเรียน เป็นสาขาการจัดการออกแบบภายใน ซึ่งเปิดรับนักศึกษาปริญญาตรีทุกสาขาที่สนใจโครงการออกแบบภายใน ต่างจากสาขาสถาปัตยกรรมภายในที่จะเปิดรับเฉพาะผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีด้านการออกแบบมาโดยตรง

    ในทางปฎิบัติ จะเรียนวิชาบังคับด้วยกัน เพราะเป็นพื้นฐานในการค้นคว้าวิจัยทางด้านการออกแบบ ซึ่งเรียนร่วมกันได้ แต่วิชาเลือกอาจจะต่างกันออกไปตามความสนใจของผู้เรียน และตัวโครงการวิทยานิพนธ์ก็จะให้ความสำคัญด้านการออกแบบในสัดส่วนที่ต่างกันครับ
    ฤทธิรงค์

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรียนอาจารย์ฤทธิรงค์

      ผมแก้ไขสาขา เรียบร้อยแล้วครับ

      ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ
      ปรีดา

      ลบ

Follow me on Twitter
Visit me on Facebook